ศึกค้างคาวกินกล้วย

ศึกค้างคาวกินกล้วย

ศึกค้างคาวกินกล้วย เรื่องย่อ กาลครั้งหนึ่ง..เมื่อถึงยุคมืดที่ดนตรีไทยถูกสั่งห้ามเล่นโดยมิได้รับอนุญาติ เนื่องจากท่านหัวหน้าอยากได้ที่จะก่อสร้างบ้านเมืองให้เป็นอารยฯ ผู้ใดกันผ่าฝ่าฝืนจะถูกจัดแจงโดยเด็ดขาด ผู้พันเผ่า(เก้า จิรายุ)ได้รับมอบหมายให้นำกำลังออกกำจัดปิดทุกสำนักดนตรีไทยที่มิได้รับอนุญาติ รวมทั้งสำนักของเซียนขาวคนที่เคยสร้างเงื่อนโกรธแค้นในใจเมื่อตอนวัยเด็กให้กับผู้พันเผ่า การกวาดล้างคราวนี้ก็เลยถือว่าเป็นการล้างเงื่อนโกรธแค้นไปในตัว แม้กระนั้นผู้พันเผ่าดันพลั้งมือในตอนกำจัดสำนักดนตรีไทยของเซีนขาว ทำให้เซียนขาวเจ็บจวนตาย

ดังนั้น ก็เลยทำให้ เชิด(พีท พชร)ที่เปรียบได้เสมือนดั่งผู้สืบทอดสำนักต่อจากเซียนขาวผู้เป็นบิดา แต่ว่าเรื่องราวมันกลับกันเพราะว่าเชิดมัวแต่พึงพอใจดนตรีฝรั่งไม่ยินยอมปฏิบัติตามสิ่งที่บรรพบุรุษตกทอดกันมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เซียนขาวปางตายเพราะเหตุว่าถูกผู้มีอิทธิพลข่มขี่ดนตรีไทยด้วยข้อบังคับที่ไม่ยุติธรรม ทำให้เชิดจะต้องหันกลับมาเล่นดนตรีไทยอีกที แล้วก็เหล่าศิษย์ของเซียนขาว กลั่น(เจแปน แสงสว่างพรรณ) พวง(นิกกี้ ณฉัตร) ราชสีห์(เติ้ล)

ก็เลยรวมกลุ่มตั้งกลุ่มที่มีชื่อว่า“ค้างคาวรับประทานกล้วย” เพื่อชำระแค้นให้กับเซียนขาว แล้วก็ออกทวงคืนดนตรีไทยให้กลับมาเป็นของทุกคนอีกที โดยมีแก้วตา(โจริน 4EVE) สาวสวยผู้เป็นมือซ้อที่สำนักเซียนดำ สตรีที่ทำให้ผู้พันเผ่าหลงเสน่ห์ แต่ว่าดันไปช่วยเหลือเชิดแล้วก็กลุ่มค้างคาวรับประทานกล้วยให้กำเริบต่อท่านหัวหน้า

ยิ่งทำให้ผู้พันเผ่าไม่สบอารมณ์อย่างมากมาย จนถึงแปลงเป็นการรบระหว่างเพื่อนฝูงที่มีดนตรีไทยมรดกของชาติเป็นพนัน ศึกรบแล้วก็ศึกรัก ศึกค้างคาวรับประทานกล้วยจะจบลงเช่นไร เชิดกลุ่มค้างคาวรับประทานกล้วยจะมีผลให้ดนตรีไทยกลับมาเป็นของทุกคนอีกทีได้หรือเปล่า ติดตามในรูปภาพยนตร์กวนๆที่จะเชิญทุกคนมา ตลก ดราม่า น้ำตาซึม ระเบิดเทือกเขา เผากระต๊อบ ไปร่วมกัน!!!

ศึกค้างคาวกินกล้วย

ศึกค้างคาวกินกล้วย

เกิดเรื่องราวยุคมืดของดนตรีไทย เมื่อมีกฎแล้วก็คำบัญชาห้ามใครกันแน่ละเมิดเล่นดนตรีไทย พร้อมด้วยให้กองกำลังทหารออกกำจัดอย่างเข้มข้น สำนักเซียนขาวก็เป็นเยี่ยมในวัตถุประสงค์ของ ผู้พันเผ่า เนื่องจากสถานที่ที่นี้ได้สร้างรอยแผลรวมทั้งเงื่อนโกรธแค้นในใจให้กับเขามาตั้งแต่เด็กๆแต่ว่าความประพฤติปฏิบัติของเขาเหี้ยมโหดอำมหิตกว่าที่คาดการณ์ เป็นเหตุทำให้ เชิด ป้ายยาผู้เดียวกันของเซียนขาว จะต้องออกมาหาวิธีล้างแค้นรวมทั้งทวงคืนดนตรีไทยให้กับคืนสู่สังคมอีกรอบ การต่อสู้ระหว่างกลุ่มชนในชุดแต่งกายกับประชาชนมนุษย์ปกติ เพื่อกู้เสียงดนตรีเพราะประจำเมืองได้มีขึ้น

นี่เป็นผลงานการร่วมกันเขียนบทแล้วก็ควบคุมของ “เจแปน แสงพรรณ” ไอดอลขำขันชายหนุ่มที่สมัย กับ “กฤษณะ จิตเนาวรัตน์” ที่เชี่ยวชาญอยู่ในแวดวงภาพยนตร์ไทยมายาวนาน คนที่อยู่ข้างหลังงานบทหนังเครือญาติจุ้นจ้านประเด็นต่างๆแล้วก็ Low Season สุขสันต์วันไม่มีแฟน ที่ผลิตบทออกมาผูกจิตใจผู้ชมมาได้แล้ว จำเป็นต้องสารภาพว่าวิสัยทัศน์แล้วก็การผลิตคอนเซ็ปต์ของพวกเขาทั้งสองออกจะมีทิศทางที่กระจ่างแจ้งดีทีเดียว มีแก่นของหลักสำคัญที่เด่นว่าจึงควรการสื่ออะไรถึงผู้ชม ก็เลยเป็นการจับคู่กันของมือค่อนข้างจะใหม่สำหรับเพื่อการสร้างภาพยนตร์ กับมือเก๋าของนักสร้างมากมายประสบการณ์ ผลที่ออกมามันบางครั้งอาจจะยังไม่ถึงระดับบริบูรณ์มากสักเท่าไรนัก

รีวิวหนัง

ศึกค้างคาวกินกล้วย” เป็นภาพยนตร์แอ็กชั่น-คอมเมดี้จากไทยที่เล่าราวแปลกใหม่ โดยเป็นการประสมประสานระหว่างค้างคาวรวมทั้งกล้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะไม่น่ามาพบกันได้ กลับถูกเสนอในบริบทที่ฮาและก็สร้างความสนเท่ห์ใจ

เรื่องราว หนังเล่าถึงการเสี่ยงอันตรายของกรุ๊ปค้างคาวในป่าเขตร้อนที่จำต้องเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายธรรมชาติและก็ผู้ตามล่าที่น่าสยอง อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ทำให้หนังนี้ไม่ซ้ำใครเป็นการเข้ามามีหน้าที่ของ “กล้วย” ที่เปลี่ยนเป็นปัจจัยหลักสำหรับการช่วยเหลือค้างคาวพวกนี้

ดาราและก็การแสดง นักแสดงค้างคาวมีบุคลิกลักษณะรวมทั้งนิสัยที่สะดุดตา เป็นต้นว่า ผู้แสดงนำที่เป็นค้างคาวหัวหน้าทีมที่มีความฉลาดแล้วก็กล้าหาญชาญชัย แล้วก็ผู้ร่วมทีมที่มีความเฮฮา การนำกย์เสียงก็ดีแล้วยอดเยี่ยม มีความชอบธรรมชาติรวมทั้งทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่ารักน่าเอ็นดูของผู้แสดง

ลักษณะเด่น

การผลิตโลกแฟนตาซี: โลกของเหลือคาวและก็กล้วยในหนังนี้ถูกผลิตอย่างประดิษฐ์ การออกแบบฉากรวมทั้งสภาพแวดล้อมในป่าเขตร้อนทำให้พวกเรารู้สึกเสมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเหลือคาว

มุกขบขัน: หนังเต็มไปด้วยมุกขบขันแบบไทยๆซึ่งช่วยบรรเทาและก็ทำให้ผู้ชมเพลิน

แง่คิด: เว้นเสียแต่ความขบขันแล้ว หนังยังแทรกแง่คิดเกี่ยวกับความร่วมแรงร่วมใจและก็การอยู่ร่วมกันของทุกสิ่งในธรรมชาติ

จุดที่บางทีอาจปรับปรุง

บทที่ค่อยไป: ถึงแม้ว่าหนังจะสนุกสนาน แม้กระนั้นบางโอกาสคิดว่าบทเรื่องค่อนข้างจะค่อยและไม่มีความเข้มข้นเท่าไรนัก ซึ่งอาจจะส่งผลให้บางฉากมองไม่จบสิ้นไปบ้าง

การตัดต่อ: นิดหน่อยของหนังบางครั้งอาจจะมองไม่สมูธ โดยยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนฉากที่บางโอกาสมองล้นไปนิด

สรุป “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่อยากได้บรรเทารวมทั้งอยากหัวเราะกับมุกเฮฮาๆ
ภาพยนตร์หัวข้อนี้สามารถพรีเซ็นท์ความยุติธรรมชาติแล้วก็ความน่ารักน่าเอ็นดูของผู้แสดงได้อย่างพอดี ถึงจะมีจุดซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปได้ แต่ว่าก็ยังเป็นหนังที่ดูแล้วให้ความสนุกสนานแล้วก็เบิกบาน

“ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เป็นเลิศในภาพยนตร์ไทยที่สร้างความฮือฮา ด้วยเรื่องราวที่ผสมความตลกขบขันรวมทั้งการเสี่ยงภัยเข้าด้วยกันได้อย่างพอดี มีรายละเอียดที่ย้ำความสนุกรวมทั้งการเสี่ยงภัยของนักแสดงที่แปลกประหลาดรวมทั้งมีเอกลักษณ์

เรื่องราว เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อกรุ๊ปค้างคาวซึ่งเป็นตัวละครหลัก จะต้องออกเผชิญภัยเพื่อช่วยเหลือหมู่บ้านจากสถานะการณ์วิกฤติบางสิ่ง การเดินเรื่องมีการเล่นกับคำพูดตลก การแสดงที่ตลก แล้วก็ฉากที่ทำให้ผู้ชมเพลินไปตลอดการดู โดยที่ชื่อ “ศึกค้างคาวกินกล้วย” ก็มาจากหนึ่งในรายละเอียดของเรื่องที่เชื่อมโยงกับการต่อสู้ของนักแสดงค้างคาวกลุ่มนี้สำหรับการรับประทานกล้วย ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ถูกตีความหมายในหลายๆมุม

การแสดง ผู้แสดงทุกคนมีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับในการพรีเซ็นท์ความตลกขบขันได้อย่างธรรมชาติ โดยเฉพาะการแสดงออกทางสีหน้าท่าทางรวมทั้งการเคลื่อนไหวที่ทำให้ผู้ชมขำได้อย่างง่ายๆ ผู้แสดงค้างคาวก็ถูกดีไซน์มาให้มีเสน่ห์และก็น่าดึงดูด ทำให้ผู้ชมเชื่อมโยงแล้วก็รู้สึกผูกพันไปกับพวกเขา

การถ่ายทำแล้วก็ภาพ ในด้านของภาพยนตร์ หัวข้อนี้มีการใช้วิธีการถ่ายทำที่ค่อนข้างจะน่าดึงดูด โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากการต่อสู้รวมทั้งการวิ่งตามล่าที่ถูกถ่ายทำอย่างเร็วแล้วก็มีการใช้มุมกล้องถ่ายรูปที่แปลกใหม่ ฉากทิวทัศน์ทิวภาพก็มีความสวยแล้วก็เข้ากันได้กับบรรยากาศของเรื่อง

จุดเด่น

ศึกค้างคาวกินกล้วย

คำพูดตลกที่เน้นย้ำความสนุกรวมทั้งบรรเทา การแสดงที่น่าดึงดูดและก็เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รายละเอียดที่ค่อยและก็เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย

ข้อตำหนิ เรื่องราวบางช่วงบางทีอาจจะดูแคลนบางหรือคาดคะเนง่ายเหลือเกิน บางคำพูดตลกบางครั้งก็อาจจะไม่เข้าถึงกรุ๊ปผู้ชมทุกคน โดยรวมแล้ว “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เป็นหนังที่มองบันเทิงใจรวมทั้งเหมาะกับคนที่อยากได้บรรเทาไปกับความขบขันและก็การเสี่ยงอันตรายที่ไม่สลับซับซ้อน แม้กระนั้นยังคงมีเสน่ห์ส่วนตัว

ถึง ศึกค้างคาวกินกล้วย จะค่อนข้างจะแน่ชัดในด้านสิ่งที่ผู้ผลิตต้องการจะร้อยเรียง แต่หนังยังค่อนว่าจ้างกระพร่องกระแพร่งในทางของการผลิตสตอปรี่จากบทหนังที่ค่อนข้างจะไม่มีน้ำหนักอย่างโชคร้าย ทั้งยังยังมาเจอหน้ากับจังหวะการเล่าเรื่องที่เกือบจะไม่สร้างปฏิกิริยาสนองตอบใดๆก็ตามกับผู้ชมได้สักเท่าไหร่นัก ก็เลยทำให้เปลี่ยนเป็นหนังที่ปลดปล่อยหน้าจอยไปเรื่อยตลอดแทบ 2 ชั่วโมง ที่ยังไม่เจอจุดไหนที่น่าดึงดูดหรือจำได้ซักเท่าไหร่

ก็ยังคงคือปัญหาเดิมๆของแวดวงภาพยนตร์ไทยกับบทหนังที่ขัดข้องไปหมด ในกรณีของ ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย หัวข้อนี้ก็จำเป็นต้องเจอหน้ากับบทที่ขาดสมดุลที่ดี โดยที่ละเลยในทางการอิงประวัติศาสตร์ที่มิได้เหมือนจริงอะไร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่นักสร้างภาพยนตร์สามารถทำออกมาในแนวทางนี้โดยตั้งใจได้ด้วยเหมือนกัน แต่ว่าในทางความเป็นภาพยนตร์นั้น กลับยังไม่อาจจะสร้างความเพลิดเพลินและก็สำราญใจให้กับผู้ชมได้อย่างพอเพียง ท้ายที่สุดก็ไม่ต่างอะไรกับการจับชนฉากซิทคอมจากรายการดังของเวิร์คพอยท์ มาต่อๆกันเป็นหนังที่เต็มไปด้วยรอยต่่่อที่ยังขาดความสมูทอยู่

ดนตรีประกอบ ดนตรีใน “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ช่วยสร้างบรรยากาศความสนุกสนานร่าเริงรวมทั้งความระทึกใจให้กับเรื่อง ดนตรีประกอบย้ำจังหวะที่มีความครื้นเครงกับฉากการต่อสู้และก็การเสี่ยงภัยต่างๆในเวลาเดียวกันก็มีท่อนดนตรีที่นุ่มนวลในตอนที่มีฉากซึ้งๆหรือฉากที่ย้ำอารมณ์ของนักแสดง ดนตรีช่วยทำให้ปรับเรื่องราวมองแจ่มใสและก็น่าติดตามเพิ่มขึ้น

จุดแข็งพิเศษ

นอกจากความตลกขบขันรวมทั้งการเสี่ยงอันตรายแล้ว หนังยังซ่อนเร้นแง่คิดเกี่ยวกับการเกื้อกูลกันและก็การอยู่ร่วมกันในสังคม การเอาชนะปัญหาและก็ปัญหาต่างๆด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและก็ความร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างผู้แสดง หนังมิได้เพียรพยายามย้ำดราม่าหรือความสลับซับซ้อนมากเท่าไรนัก แต่สื่อถึงความง่ายๆสำหรับในการดำรงชีวิตรวมทั้งการจัดการกับปัญหาด้วยใจจริงที่เปิดกว้าง

แง่คิดที่ได้จากเรื่อง “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ตลกและก็เบิกบาน แต่ว่าก็ซ่อนเร้นไปด้วยข้อคิดเตือนใจหลายประการ ดังเช่นว่า การไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา การร่วมแรงกันระหว่างเพื่อนเกลอสำหรับในการเจอปัญหา รวมทั้งการมองหาความปรารถนาถึงแม้ในเหตุการณ์ที่ทุกข์ยาก หนังประเด็นนี้มีการเล่าที่ให้มุมมองของการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูก ไม่ว่าจำเป็นจะต้องพบกับความยากแค้นเพียงใด

สรุป “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับผู้ที่รู้สึกชื่นชอบความตลกขบขันรวมทั้งการเสี่ยงอันตรายเบาๆตัวหนังมิได้มีพล็อตที่สลับซับซ้อนมากเท่าไรนัก กลับใช้ความง่ายๆของรายละเอียดและก็ผู้แสดงสำหรับเพื่อการยั่วยวนใจความพอใจของผู้ชม แม้ว่าจะมีจุดอ่อนนิดๆหน่อยๆในประเด็นการเดินเรื่องที่บางทีอาจเดาได้ง่าย แม้กระนั้นด้วยการแสดงที่เด่น คำพูดตลกที่แปลกใหม่ และก็ฉากการเสี่ยงภัยที่ตื่นเต้น ทำให้หนังหัวข้อนี้เป็นเลิศในหนังที่เหมาะกับการดูเพื่อความสนุกสนานแบบไม่ต้องคิดมาก

สำหรับนางเอก ‘แก้วตา’ สวมบทโดย ‘โจริญ’ เจแปนอ้าว่า “โจริญเป็นรุ่นน้องที่เรียนภาพยนตร์มาด้วยกัน กระทั่งน้องได้มาเป็นนักแสดง 4EVE ด้วยความรู้ความเข้าใจอีกทั้งร้อง อีกทั้งเต้น อีกทั้งการแสดง ทำให้ต้องการร่วมงานกับน้องในฐานะนางเอกหนังหัวข้อนี้ พวกเราเคยได้เห็นโจริญในมากมายความรู้ความเข้าใจมาแล้ว แต่ว่ายังไม่เคยมองเห็นความรู้ความเข้าใจทางด้านการแสดงภาพยนตร์อย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนตัวเคยร่วมงานกับน้อง มั่นใจว่าน้องสามารถทำให้ผู้ชมรักนักแสดงที่ชื่อ แก้วตา แล้วก็ภาพยนตร์ประเด็นนี้ได้แน่ๆนะครับ”

การออกแบบนักแสดง

ศึกค้างคาวกินกล้วย

ศึกค้างคาวกินกล้วย” มีการวางแบบผู้แสดงที่สร้างความต่างและก็น่าดึงดูดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวค้างคาวที่เป็นตัวเอกของเรื่อง กลุ่มผู้ผลิตได้ทำให้ผู้แสดงมีเอกลักษณ์และก็ความน่ารักน่าเอ็นดูผ่านการออกแบบสีสันแล้วก็กิริยาท่าทาง นักแสดงแต่ละตัวมีบุคลิกลักษณะที่แจ่มกระจ่างแล้วก็เด่น ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่องราว ตัวค้างคาวแต่ละตัวก็มีความรู้และความเข้าใจและก็ลักษณะท่าทางเฉพาะ ได้แก่ ตัวที่เก่งด้านการต่อสู้ ตัวที่มีความขำขัน และก็ยังรวมทั้งตัวที่ถูกใจสร้างสถานการณ์ไม่ตรงกันในเรื่อง

เคล็ดลับพิเศษ (Special Effects) แม้จะเป็นหนังที่มิได้ย้ำการใช้เคล็ดลับพิเศษที่สลับซับซ้อนหรือยอดเยี่ยมมากมาย แม้กระนั้นการใช้ CG สำหรับการสร้างเนื้อสร้างตัวค้างคาวรวมทั้งฉากแอ็กชันต่างๆนั้นทำเป็นดีในระดับที่น่าประทับใจ ฉากการต่อสู้ของตัวค้างคาวกับศัตรูต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาอย่างน่าสนุกสนานรวมทั้งน่าติดตาม การใช้เอฟเฟกต์เสริมให้ฉากตลกโปกฮามองน่าสนุกเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การแสดงอารมณ์ของผู้แสดงหรือการเคลื่อนไหวในฉากแอ็กชันที่มองเกินจริงอย่างมีสไตล์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมกับฉากพวกนั้น

บรรยากาศรวมทั้งโทนของเรื่อง

บรรยากาศใน “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” เต็มไปด้วยความแจ่มใสแล้วก็มีพลัง หนังสร้างโทนที่มองเป็นมิตรแล้วก็เน้นย้ำการผลิตเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นคำพูดตลกหรือล้อเลียนเหตุการณ์ต่างๆซึ่งทำให้เรื่องราวไม่มองคร่ำเคร่ง โทนของหนังก็เลยเหมาะกับการรับดูในครอบครัวหรือกับกรุ๊ปเพื่อนพ้อง ซึ่งสามารถเพลินไปกับความสนุกสนานได้อย่างไม่สลับซับซ้อน

คำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชม คนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับดูภาพยนตร์นี้ชอบชื่นชอบในทางของความเบิกบานใจที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และก็ความแจ่มใสที่หนังมอบให้ ความธรรมดาของเรื่องราวและก็การแสดงขำขันที่เป็นธรรมชาติทำให้หนังประเด็นนี้ได้รับความชอบจากผู้ชมที่ปรารถนาบรรเทารวมทั้งหนีจากความตึงเครียด บางบุคคลยังยกย่องการออกแบบนักแสดงและก็การใช้มุมกล้องถ่ายภาพที่ทำให้ฉากต่างๆมองน่าติดตาม อย่างไรก็ดี มีคำติชมว่าเรื่องราวบางทีอาจจะค่อยเหลือเกินสำหรับผู้ที่ปรารถนาความสลับซับซ้อนหรือกลับในเรื่อง

สรุปในที่สุด

ศึกค้างคาวกินกล้วย  เป็นภาพยนตร์ที่น่ารักน่าเอ็นดูและก็เบาสมอง เหมาะกับคนที่อยากดูอะไรที่ครึกครื้นและไม่สลับซับซ้อน หนังเต็มไปด้วยคำพูดตลกที่ทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินเจริญใจตลอดระยะเวลา และก็ยังมีการวางแบบผู้แสดงที่น่าจำ ถึงแม้ว่าหนังบางครั้งก็อาจจะไม่มีเรื่องราวที่สลับซับซ้อนหรือความลึกทางด้านอารมณ์มากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็สามารถมอบประสบการณ์ความรื่นเริงใจแบบสุดกำลัง ทำให้เป็นหนังที่เหมาะกับช่วงพักหรือการดูแบบสบายๆ

เป็นสายคอมเมดี้ตัวยง พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ผู้แสดงชายหนุ่มมากเรื่องมากความสามารถ ตกปากรับคำในทันที ข้างหลัง เจแปน–แสงสว่างพรรณ ขึ้นแท่นผู้กำกับ พูดเชิญเล่นภาพยนตร์เรื่อง “ศึกค้างคาวรับประทานกล้วย” ของค่าย คาร์แมน ไลน์ สตูดิโอ ตามติดคู่ โจริญ 4EVE เสริมกองทัพเสียงเฮชุ่มฉ่ำ เก้า-จิรายุ, นิกกี้-ณฉัตร, เจแปน–แสงพรรณ มีระบุเข้าฉาย 19 เดือนกันยายนนี้ ซึ่งงานนี้ชายหนุ่มพีชมากมายระเหม็นตุกต่อมฮาก่อนวาร์ปไปศึกษาต่อที่อังกฤษ

เริ่มจาก…ก “ในเรื่องผมสวมบทเล่นเป็นเชิดนะครับ เป็นลูกของคุณครูระนาด เซียนขาว เขาเป็นคนมีความชื่นชอบเป็นของตนเอง บิดาไม่รับในสิ่งที่เขาทำ บิดาอยากที่จะให้เล่นดนตรีไทย แต่ว่าเขาต้องการเล่นดนตรีสากลมากยิ่งกว่า เขาจะเป็นคนต้านสิ่งที่คนบอกให้ทำ”

หนังประเด็นนี้มีตรงจุดไหนที่ทำให้พวกเราต้องการเล่น “เจแปนเลยนะครับ บังคับให้เล่น (หัวเราะ) ไม่หรอกๆจริงๆเคยทำงานร่วมกันตั้งแต่ยุควัยรุ่นพันล้านแล้วเล่นร่วมกันมาก่อน เพียงพอเพื่อนคุยทำหนังเรื่องแรกด้วยก็โอเคได้ และก็กลุ่มหนังก็เป็นกลุ่มที่พบกันบ่อยครั้งอยู่แล้ว ก็โอเคมีความรู้สึกว่าคงจะบันเทิงใจดีแบบเดียวกัน ตอนคุยกับเจแปนน่าสนุกเสมือนเอาขำขัน 6 ฉากมาทำเป็นหนังน่าสนุกดีนะด้วยเหตุว่ามาเกือบจะครบเลย อีกอย่างนึงหัวข้อนี้มีเก้า-จิรายุ ด้วยเหตุว่าผมมิได้เล่นกับเก้ามานานแล้ว หนัง 13 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ซักซี้ด ไม่ดีขั้นเทวดาเลย ได้เล่นร่วมกันอาจจะขำขันดี ตัวมัน (เก้า) เป็นคนติ๊งต๊อง” redslurpeee